28 ตุลาคม 2555

แก้ปัญหา การเชื่อมต่อที่ไม่น่าเชื่อถือใน Firefox

การแก้ปัญหาสำหรับผู้ใช้ Firefox ในกรณีแจ้ง error การเชื่อมต่อที่ไม่น่าเชื่อถือ

     
ใครเคยเข้าใช้งานเวบบราวเซอร์ Firefox แล้วพบข้อความแจ้ง error ว่า  "การเชื่อมต่อนี้ไม่น่าเชื่อถือ"  วิธีการแก้ไข มีวิธีการง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ  ให้คลิกที่ "ฉันเข้าใจถึงความเสี่ยง"

   เมื่อปรากฏหน้าต่าง ว่า การเชื่อมต่อที่ไม่น่าเชื่อถือ  จะปรากฎข้อความอธิบายเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และให้คลิกที่ปุ่ม "เพิ่มข้อยกเว้น"

     ต่อจากนั้น จะปรากฎ Dialog Box "เพิ่มข้อยกเว้นความปลอดภัย" ให้คลิกที่ปุ่ม "ยืนยันข้อยกเว้นความปลอดภัย" ดังภาพ
     เพียงเท่านี้ต่อไปในการท่องโลกออนไลน์ก้จะไม่ปรากฏ  Certificate Error ให้รำคาญใจอีกแล้วค่ะ

 

เครดิต : http://mailhelper.mahidol.ac.th/help/sovIE.php

27 ตุลาคม 2555

เมื่อพบปัญหา There is a problem with this website's security certificate

 

ใครเคยเจอปัญหา There is a problem with this website's security certificate คงหงุดหงิดกันน่าดู  เพราะ ว่าจะเข้าไปใช้งานเวบไซต์ใด ๆ ก้ไม่ได้  เปิดมาก็งงอยู่กับที่ วันนี้ผ่านไปเจอวิธีแก้ปัญหา จึงนำมาร่วมแชร์ในเวบบล็อกแห่งนี้ค่ะ

 

เริ่มแรกให้เราเข้า Internet Explorer แล้วไปที่ Tools  –--> Internet Options ดังรูป


จากนั้นไปที่ Tabs “Advanecd”
แล้วเอา check box ของ Warn about certificate address mismatch* ออก
แล้วกด Apple แล้ว Ok และทำการปิด IE แล้วเปิดขึ้นมาใหม่

 

 

หลังจากได้ทำการปิด Warning Certificate บน IE ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อเปิด IE แล้วLoing เข้าสู่ระบบพิสูจน์ตัวตน แต่มันก็ยังจะฟ้องอยู่อีก ไม่ต้องกังวล ใจ  เพราะเรายังไม่ได้ทำการ Import Certificate ให้กับ IE
การ Import Certificate ก็มีขั้นตอนดังนี้
เปิด IE เข้าระบบพิสูจน์ตัวตนจากนั้นกด Continue to this website (not recommended).

จากนั้น คลิกที่ Certificate Error ดังภาพ



แล้วคลิกที่ View Certificate

แล้วคลิก Install Certificate…
คลิก Next

คลิก Next

คลิก Finish.

จากนั้นจะปรากฎหน้า Security Warning เพื่อยืนยันการ Install Certificate  ให้เราตอบ Yes

จากนั้นก็ คลิก Ok  แล้วปิด IE แล้วเปิดใหม่

เท่านี้ เวลาเข้า Login ระบบพิสูจน์ตัวตนก็จะไม่เกิดหน้า Certificate Error กวนใจอีกแล้ว
---------------------------------------------------------------------------------
หลังจากปิด Warning และ Import Certificate เป็นที่เรียบร้อยผลที่ได้ก็จะประมาณนี้



 

ขอบคุณที่มา  http://gigcomputer.net/board/index.php?topic=335.0

25 ตุลาคม 2555

ยกเลิกการแจ้งเตือนบันทึก รหัสผ่านใน Google Chrome

เคยรูู้สึกรำคาญบ้างไหมคะ  ทุกครั้งที่เปิดหน้าเวบ  ล็อกอินเข้าใช้บริการเวบไซต์แต่ละแห่ง จะปรากฏข้อความถามจากเวบบราวเซอร์ Google chrome ถามว่าจะให้จำรหัสผ่านหรือไม่  (ก็จะถามอะไรกันนักหนา) วันนี้มาชวนปิดคำถามบันทึกรหัสผ่านใน Google chrome กันค่ะ

วิธีการปิดข้อความแจ้งเตือนบันทึกรหัสผ่านใน Google chrome มีวิธีดังนี้ค่ะ

รหัสผ่านใน Google chrome

1 เปิดเวบบราวเซอร์ Google chrome คลิีกไปที่ iconimage  ไปที่การตั้งค่า

รหัสผ่านใน Google chrome

2. ที่หน้าต่างการตั้งค่า  เลื่อนลงไปตอนท้ายของหน้าเวบ คลิีกที่ แสดงการตั้งค่าขั้นสูง

การตั้งค่ารหัสผ่าน password

3. ที่เมนู รหัสผ่านและฟอร์ม  ให้ติีกเอาเครื่องหมาย ถูกหน้า เมนุ เสนอให้บันทึกรหัสผ่านที่ฉันป้อนในเวบ ออกไป

แค่นี้ ทุกครั้งที่ เปิดเวบไซต์ ก็จะไม่มีข้อความแจ้งเตือนให้บันทึกรหัสผ่านแล้วค่ะ

หากต้องการลบข้อมูล Password เดิม ๆ ในเวบไซต์ที่เคยบันทึกไว้ คลิีกที่จัดการรหัสผ่านที่บันทึกไว้

การตั้งค่ารหัสผ่าน password

จะปรากฏหน้าต่างรหัสผ่าน  แล้วคลิีกที่เครื่องหมายกากบาทออก แล้วเลือกบันทึก แค่นี้รหัสผ่านเดิม ๆ ก็จะหายไปแล้วค่ะ

23 ตุลาคม 2555

การ upload ไฟล์ขึ้นเวบ Tracker ด้วย ฟรีแวร์ Utorrent

การอัพโหลดไฟล์ขึ้นเว็บ Tracker

1.) เข้าเว็บ Tracker

การ upload ไฟล์ขึ้นเวบ Tracker ด้วย ฟรีแวร์ Utorrent

  1. เลือกเมนู Upload,
  2. ก็อปปี้หรือจด Announce URL ใว้เพื่อใช้ในชั้นตอนต่อไป

2. เปิดโปรแกรม uTorrent คลิกที่ "File -> Create New Torrent.." หรือ คลิกที่ไอคอนดังรูป

การ upload ไฟล์ขึ้นเวบ Tracker

3. จะเห็นหน้าต่างดังรูปซ้ายมือ

การใช้ utorrent

  1. คลิก "Add file" ถ้าต้องการอัพโหลดไฟล์เดียว หรือ "Add directory" ถ้าต้องการอัพโหลดทั้งโฟลเดอร์
  2. เลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการ
  3. กด "Select File" หรือ "Select Folder"
  4. Paste หรือใส่ Announce URL ที่ได้จากขั้นตอนที่ 1 ลงไป (สำคัญมาก)
  5. ติ๊กเลือก "Private torrent" หรือไม่ก็ได้ (ควรติ๊กใว้เพราะป้องกัน Peer ผี)
  6. เลือก "Create and save as..."

4. รอให้สร้างไฟล์ torrent เสร็จ

การอัพโหลดไฟล์ไปยัง bittorent

  1. รอให้โหลดเสร็จ จะมีหน้าต่างขึ้นมาดังรูปขวามือ
  2. เลือกตำแหน่งและชื่อไฟล์ที่ต้องการเซฟ
  3. กด Save

5. กลับมาที่หน้าจอตามขั้นตอนที่ 1. เพื่อใส่รายละเอียดไฟล์ที่ต้องการอัพในเว็บ

การอัพโหลดไฟล์ไปยัง bittorent

  1. กดเลือกไฟล์ torrent ที่ได้จากขั้นตอนที่แล้ว
  2. ใส่ชื่อไฟล์ที่ต้องการอัพขึ้นเว็บ (บอกให้รู้ว่าเป็นไฟล์อะไร ยังไง)
  3. ใส URL ของ SS (Screen Shot หรื รูปภาพประกอบ) หรือ เว็บไซท์ที่เกี่ยวข้อง
  4. เลือกหมวดหมู่ของไฟล์ที่จะอัพ
  5. ใสรายละเอียดไฟล์ (ควรใส่ให้ละเอียด)
  6. กด "Upload Torrent" ครับ

6. ถ้าอัพสำเร็จจะแสดงหน้าจอดังภาพ ให้คลิกเพื่อดูไฟล์ที่คุณเพื่งอัพ

7. ให้คุณดาว์นโหลดไฟล์ torrent พึ่งอัพไปมา หรือ ทำเหมือนขั้นตอนการดาว์นโหลดไฟล์ แต่ตอนเลือกตำแหน่งที่จะเซฟไฟล์ต้องเลือกตำแหน่งที่จะเซฟให้ตรงกับตำแหน่งไฟล์ที่มีอยู่ในเครื่อง โปรแกรมจะตรวจสอบไฟล์และจะเรื่มปล่อยไฟล์ให้อัตโนมัติ ถ้าทุกอยู่ถูกต้องสถานะของไฟล์ในโปรแกรม uTorrent จะเป็น "Seeding" และไฟล์ที่คุณอัพก็จะแสดงอยู่ในหน้าของเว็บแทรกเกอร์ ดังรูปด้านล่าง

การอัพโหลดด้วยโปรแกรม utorrent

 

 

ขอบคุณบทความจาก http://www.thailandtracker.com/

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใช้งานโปรแกรม Utorrent ช่วย Download ไฟล์จากเวบ Bittorent

ใช้งานโปรแกรม Utorrent ช่วย Download ไฟล์จากเวบ Bittorent

ครั้น Format เครื่องคอมลง Windows 7 ใหม่ก็จำเป็นต้องหาโปรแกรมมาลง  แหล่งที่จะหาของฟรี ประเภท full นั้น ดิฉันมันแว้บไปใช้บริการเวบไซต์ประเภท Bittorent ค่ะ มันเป็นแหล่งแชร์ไฟล์ที่เราสามารถดาวน์โหลดได้มาใช้ฟรี ๆ แถมข้อมูลเยอะเสียด้วย  เวบไซต์เหล่านี้จำเป็นต้องมีตัวช่วยในการดาวน์โหลดโดยเฉพาะ  ดิฉันใช้ Utorrent ค่ะ เพราะโปรแกรมมีขนาดเล็ก ใช้งานไม่ยากนัก  วันนี้ผ่านไปเจอวิธีการใช้งานโปรแกรม utorrent ในการใช้งานดาวน์โหลดไฟล์จากเวบไซต์ประเภท bittorrent เลยเก็บมาร่วมแชร์ค่ะ

1. เลือกไฟล์ที่ต้องการดาว์นโหลดในเว็บแล้วคลิกดาว์นโหลดไฟล์ torrent

หลังจากค้นหาไฟล์งานที่ต้องการจาก Search engine เรียบร้อยแล้ว  เข้าไปที่แหล่งเวบบิต เมื่อเจอไฟล์ที่ต้องการ ก็เริ่มต้นใช้งาน Utorrent กันเลยค่ะ

1. เลือกไฟล์ที่ต้องการดาว์นโหลดในเว็บแล้วคลิกดาว์นโหลดไฟล์ torrent

1. เลือกไฟล์ที่ต้องการดาว์นโหลดในเว็บแล้วคลิกดาว์นโหลดไฟล์ torrent

 

2. เลือก "Open with uTorrent" หรือ "Save File" ก็ได้ แล้วกด OK

การใช้งานโปรแกรม Utorrent

  • ถ้าเลือก "Save File" ก็จะได้ไฟล์ torrent มา ดังรูปด้านขวา ให้ดับเบิลคลิกเพื่อเปิดโปรแกรม uTorrent หรือ เปิดโปรแกรม uTorrent ขึ้นมาแล้วเลือก "File -> Add Torrent..." แล้วเลือกเปิดไฟล์ torrent ที่ได้ดาว์นโหลดมาแล้วทำตามขั้นตอนต่อไป
  • ถ้าเลือก "Open with uTorrent" ก็ทำตามขั้นตอนต่อไปได้เลย
3. เลือกตำแหน่งที่ต้องการเซฟ

ดาวน์โหลดเวบบิตด้วย uttorent

  1. เลือกตำแหน่งที่ต้องการเซฟ,
  2. เลือกไฟล์ที่ต้องการดาว์นโหลด
  3. กด "OK" เพื่อดาว์นโหลด
4. รอให้ดาว์นโหลดเสร็จครบ 100%  (1)จะเห็นว่าไฟล์ที่โหลดมากำลังดาว์นโหลดอยู่, (2) จะเป็นเปอร์เซ็นและชิ้นส่วนไฟล์ที่เราโหลดมาแล้ว

ดาวน์โหลดเวบบิตด้วย uttorent

5. เมื่อโหลดเสร็จแล้วสถานะในโปรแกรม uTorrent จะเป็น "Seeding" คือปล่อยให้คนอื่นโหลดต่อ ซึ่งควรจะปล่อยให้คนอื่นโหลดต่อไปเรื่อยๆ

โปรแกรม utorrent

เมื่อโหลดเสร็จแล้วเราก็จะได้ไฟล์ที่เราต้องการเรียบร้อย  สามารถใช้งานได้แล้วค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.thailandtracker.com/

22 ตุลาคม 2555

รวม Free antivirus software


AntiVir Personal 10.0.0.609
Avira GmbH - 56.58MB (Non-Commercial Freeware)Avira AntiVir Personal - FREE Antivirus is a reliable free antivirus solution, that constantly and rapidly scans your computer for malicious programs ...
Download


Avast! Free Antivirus 5.0.677
Avast Software - 52.53MB (Non-Commercial Freeware)avast! Free Antivirus represents the best free antivirus protection currently available on the market. This edition is FREE OF CHARGE for non-commerci...
Download


AVG Free Edition
AVG Technologies - (Freeware)AVG Anti-Virus Free Edition is trusted antivirus and antispyware protection for Windows available to download for free. In addition, the new included ...
AVG Free Edition 10.0.1170 (32-bit) - Download
AVG Free Edition 10.0.1170 (64-bit) - Download


BitDefender 10 Free Edition
BitDefender.com - 21.08MB (Freeware)BitDefender Free Edition is your chance to use one of the world's most effective antivirus engines for free!
Download

 


Cloud Antivirus 1.3.0
Panda Security - 31.91MB (Freeware)Panda Cloud Antivirus protects you while you browse, play or work and you won't even notice it. It is extremely light as all the work is done in the c...
Download

เครดิต  http://board.palungjit.com/

18 ตุลาคม 2555

สำรอง Driver ไว้ใช้งานก่อน Format Windows

เพราะจำเป็นต้อง Fomat เครื่องคอมลง Windows ใหม่  ค้นหาแผ่น Driver ทั่่วทั้งบ้านก็ยังหาไม่เจอ   ครั้นจะ ติดตั้ง Windows แล้วก็ Download มาใช้อีก ก็ยุ่งยากเสียเวลามากมาย  จึงค้นหาวิธี   เข้าไปพบกับโปรแกรมที่ช่วยสำรอง ( backup ) driver ในเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ใช้งาน นี่เป็นวิธีที่สะดวกขึ้น สำรองใส่แผ่นหรือสำรองเก็บไว้ใน Drive อื่น แล้ค่อยเรียกเก็บมาใช้งาน ทดลองใช้แล้ว ได้ผลดี เอามาเล่าต่อค่ะ   โปรแกรมซึ่งพระเอก ในครั้งนี้คือ  Mydriver 3.31
ตามมาดูวิธีการติดตั้งและใช้งาน Mydriver สำหรับสำรอง (backup) Driver ไว้ใช้งานกันเถอะค่ะ

วิธีการดาวน์โหลดและติดตั้ง Mydriver

โปรแกรม My driver

1. หลังการดาวน์โหลดเสร็จสิ้น ดับเบิ้ลคลิีกที่โปรแกรม my drivers .exe ดังภาพที่ 1

การติดตั้ง โปรแกรม My driver

2.หน้าต่างการติดตั้งปรากฏขึ้น คลิีก Next ไปจนกระทั่งเสร็จสิ้น

3.  หลังการติดตั้งเสร็จสิ้น จะปรากฏ icon โปรแกรม My Drivers ดังรูปที่ 3

การใช้งานโปรแกรม My Drivers ในการสำรองข้อมูล ( Back up)

การลงทะเบียน my driver

4. ให้ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ Icon ของ My drivers จะปรากฏหน้าต่าง Registraton โปรแกรม My driver  ไม่ใช่ฟรีแวร์  แต่ให้ทดลองใช้ได้ 15 วันค่ะ คลิ๊กที่ Register Later  เรา Format เครื่องแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ติดตั้ง Driver แค่ครั้งเดียว คงไม่จำเป็นต้อง ไปลงทะเบียนขนาดนั้น

การใช้งาน การลงทะเบียน my driver

5.  หน้าต่างโปรแกรม My drivers ปรากกฏขึ้น เริ่มต้นใช้งานที่  คลิ๊กที่  manage system device driver

การค้นหา Driver ด้วย การลงทะเบียน my driver

6.ทำการรวบรวมและค้นหา Driver ในตัวเครื่อง ด้วยการคลิ๊ก Fast collect

7.รอสักครู่ใหญ่ ๆ โปรแกรม My driver ก็จะแจ้งรายชื่อของ  Driver ทั้งหมดที่มีอยู่ในเครื่องเราออกมา ให้คลิ๊กที่ Backup all เพื่อเก็บ Driver ทั้งหมดไว้

การสำรอง driver

8. จากนั้นก็ไปเลือกโฟลเดอร์สำหรับเก็บข้อมูล Driver ที่จะสำรองไว้  อย่าไปเก็บไว้ใน Drive  c เป็นอันขาด เพราะเราจะ Format ให้เก็บไว้ใน Drvie อื่นใน Conputer

สำรองและ driver ด้วยโปรแกรม my driver

10.หลังจากนั้นก็ทำเพียงแต่รอ   จนการ Backup  เสร็จสิ้น จะปรากฏหน้าต่างสถานะ บอวกว่า ว่างานที่สั่งให้ทำเสร็จสมบูรณ์แล้ว

การนำ Driver ที่สำรองไว้กลับมาใช้งาน

การนำ driver มาใช้งาน

11.  ต่อจากนั้นมาดูขั้นตอนการนำไฟล์ที่สำรองไว้กลับมาใช้งานนะคะ เมื่อเราลง Windows จนเสร็จสิ้น ต่อมาขั้นตอนสำคัญคือต้องลง Driver ค่ะ คราวนี้หล่ะโปรแกรม My drivers จะได้แสดงฝีมือแล้ว เพียงแค่ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ my computer > properties จากนั้นคลิ๊กที่ TAB Hardware แล้วเลือก Device manager แล้วลองดูว่าตัวไหนบ้างที่มีเครื่องหมาย ! อยู่ด้านหน้านั่นแสดงว่า windows ไม่รู้จักหรือไม่มี Driver สำหรับอุปกรณ์ตัวนั้น (ภาพตัวอย่างคือ Multimedia audio device หรือ Sound card นั่นเอง) ก็ให้เรา Doubleclick ที่อุปกรณ์นั้น ๆ

โปรแกรม my driver

12.จากนั้นก็คลิ๊กที่ Tab Driver แล้วเลือก Update driver

ติดตั้ง driver ด้วย โปรแกรม my driver
13.คลิ๊กตัวเลือกที่ Install from a list or specific location (advanced)

เลือกแหล่งเก็บข้อมูล driver

14.ไปเลือก Folder ที่เราเก็บไฟล์ที่เราสำรอง( backup) Driver ไว้

15.จากนั้นถ้าขึ้นหน้าต่างแบบนี้ก็ให้คลิ๊กที่ Continue Anyway

ติดตั้ง driver ด้วย โปรแกรม my driver

16.รอให้ติดตั้ง Driver สักครู

restore driver โปรแกรม my driver

17. เอาหล่ะขึ้นสถานะ Finish เรียบร้อยแล้วค่ะ  เป็นอันว่า Driver ที่เราสำรองไว้ ถูกเรียกใช้นำมาติดตั้งเรียบร้อยแล้ว

ข้อสังเกต  -สำหรับเครื่องบางรุ่นที่ใช้อุปกรณ์แบบ HD Audio หรือ HD bus อาจไม่สามารถ ใช้การDriver ที่สำรองไว้ได้ รวมถึง VGA ของ Notebook บางตัวก็ไม่สามารถใช้ได้ต้องใช้การติดตั้งจากไฟล์ติดตั้งเท่านั้น (ซึ่งก็มีไม่กี่รุ่น)

เครดิต  สำรอง Driver ไว้ใช้งาน

บทความล่าสุด

Recent Posts Widget
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

บทความน่ารู้

Lazada Indonesia

 

© 2013 เทคนิคการใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต. All rights resevered. Designed by Templateism

Back To Top